Wednesday 20 April 2011

ปลาฉลามหางไหม้

ชื่อวิทยาศาสตร์ Bolantiocheilus melanopterus

ชื่ออื่นๆ ปลาฉลามหางไหม้, ปลาฉลามหางเหยี่ยว, หนามหลังหางดำ

"ปลาฉลามหางไหม้” จัดเป็นปลาน้ำจืดที่เคยพบในเขตภาคกลางของประเทศไทยบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา แต่ปัจจุบันเข้าใจว่าได้สูญพันธุ์ไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว นอกจากในบ้านเราแล้วยังพบในลุ่มน้ำในประเทศอินโดนีเซีย (ที่เกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว), มาเลเซียและกัมพูชา เป็นต้น เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ปัจจุบันคนไทยประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์ปลาฉลามหางไหม้ด้วยวิธีการผสมเทียมโดยมีหลักการเบื้องต้นคล้ายกับการผสมพันธุ์ปลาตะเพียน จะมีเทคนิคแตกต่างกันเล็กน้อย

ปลาฉลามหางไหม้
ลักษณะทั่วไปของปลาฉลามหางไหม้
ลำตัวมีลักษณะแบนข้างเล็กน้อย ลำตัวมีสีเงิน หางเว้าเป็นสองแฉก ครีบมีสีเหลืองอ่อน ขอบครีบทุกครีบมีสีดำยกเว้นครีบอก ปากมีขนาดเล็กสามารถยืดหดได้ ริมฝีปากบนยื่นยาวกว่าริมฝีปากล่าง อุปนิสัยของปลาชนิดนี้เป็นปลาที่รักสงบ ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ตื่นตกใจง่าย ชอบกระโดดออกนอกอ่างหรือตู้ มักจะว่ายอยู่ตลอดเวลา

การเพาะพันธุ์อาศัยการวางไข่ครั้งประมาณ 6,000 – 7,000 ฟอง ฟักออกเป็นตัวใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง การสังเกตุเพศของปลาดูได้จากลักษณะลำตัว โดยปลาตัวเมียลำตัวจะกว้างกว่าตัวผู้ และในช่วงวางไข่ท้องจะอูมกว่า อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาชนิดนี้ใช้ได้ทั้งอาหารสาเร็จรูปและอาหารสดประเภท ลูกน้ำ หนอนแดง ตัวอ่อนแมลง ฯลฯ

จัดเป็นปลาที่ตื่นตกใจง่าย เมื่อนำมาเลี้ยงในตู้หรืออ่างอาจจะพบปัญหาเรื่องการกระโดดออกนอกอ่างหรือตู้ได้ เคยพบปลาฉลามหางไหม้ในธรรมชาติที่เจริญเติบโตเต็มที่มีขนาดลำตัวถึง 14 นิ้ว

No comments: