Wednesday 29 September 2010

ปลาอะราไพม่า (Arapaima)

ปลาอะราไพม่าเป็นปลาอะโรวาน่าอีกชนิดหนึ่งที่พบอยู่ในทวีปอเมริกาใต้แถบลุ่มน้ำอะเมซอน แม่น้ำโอริโนโค ประเทศบราซิล เปรูและโคลัมเบียปลาอะโรวาน่าชนิดนี้จัดว่าเป็นปลาในตระกูลอะโรวาน่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ขนาดโตเต็มที่จะมีความยาวถึง 4.5 เมตร น้ำหนักราว 400 กิโลกรัม ซึ่งปลาชนิดนี้เป็นปลาที่ร้จักกันดีในหมู่ชาวพื้นเมืองแถบลุ่มน้ำอะเมซอน ซึ่งคนพื้นเมืองนิยมบริโภคปลาชนิดนี้เช่นเดียวกับความนิยมบริโภคปลาช่อนในบ้านเรา ชาวเปรูมักเรียกปลาอะราไพม่าว่า PAICHE ส่วนชื่อพิรารูคูเป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองในบราซิลใช้เรียกขานกันปลาอะราไพม่าเป็นปลาที่มีรูปร่างผิดแผกแตกต่างไปจากปลาอะโรวาน่าชนิดอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง จนแทบไม่น่าเชื่อว่าปลาชนิดนี้จะถูกจัดรวมไว้ในตระกูลเดียวกับปราอะโรวาน่าด้วยซ้ำเพราะปลาชนิดนี้มีลำตัวค่อนข้าวกลมและเรียวยาว ไม่แบนข้างมากเหมือนปราอะโรวาน่าทั่ว ๆ ไป

ปลาอะราไพม่า (Arapaima)
ลักษณะรูปร่างของอะราไพม่า (Arapaima)
มีลักษณะคล้ายคลึงกับปลาช่อนของบ้านเรามากเพียงแต่ปลาอะราไพม่าจะมีลำตัวและเกล็ดขนาดใหญ่กว่ามาก ส่วนหัวมีลักษณะแข็งมาก ส่วนลำตัวด้านท้ายมีลักษณะแบนกว้างในขณะที่ปลายังเล็กพื้นลำตัวจะมีสีเขียวเข้มและลำตัวส่วนที่ค่อนไปทางหางจะเป็นสีดำ เมื่อปลาโตขึ้นบริเวณลำตัวส่วนที่ค่อนไปทางหางครีบและหาง จะปรากฏจุดสีชมพูปนแดงหรืสีบานเย็นประแต้มกระจายอยู่ทั่วไปแลดูสวยงามมาก ปราอะโรวาน่าชนิดนี้เป็นปลาที่ไม่มีหนวดเหมือนกับปลาอะโรวาน่าชนิดอื่น จัดว่าเป็นปลาที่มีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วที่สุดในบรรดาปลาอะโรวาน่าทั้งหมด เฉลี่ยภายในเวลาเพียง 1 ปี ปลาชนิดนี้มีอัตราการเจริญเติบโตโดยถัวเฉลี่ยน้ำหนักเพิ่มขึ้น 3 - 5 กิโลกรัมภายในที่เลี้ยง ซึ่งการเจริญเติบโตเช่นนี้บว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตกสำหรับนักเลี้ยงปลาเป็นอย่างมากเนื่องจากเมื่อปลาโตขึ้นแล้วจะไม่มีสถานที่เหมาะสมสำหรัลเสียงปลาชนิดนี้

ปลาอะโรไพม่านนอกจากจะเป็นปลาที่มีอัตราการเจิรญเติบโตที่น่ากลัวแล้ว ยังเป็นปลาที่มีอัตราการแพร่ขยายพันธุ์ที่รวดเร็วอีกด้วย แม่ปลา 1 ตัว (อายุ 4-5 ปี) สามารถวางไข่ได้ถึง 180,000 ฟอง ไข่ของปลาปลาชนิดนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 4/8-1/4 นิ้ว จัดว่าเป็นปลาที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกอีกชนิดหนึ่ง

จุดเด่นของปลา อะราไพม่า
ความใหญ่โตซึ่งสามารถสร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้พบเห็น ในประเทศญี่ปุ่น ปลาชนิดนี้ได้รับความสนใจมาก ถึงกับเคยมีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งได้นำปลาชนิดนี้ไปโชว์ได้รับความสนใจจากประชาชน สำหรับในประเทศไทยปลาชนิดนี้ได้รับความนิยมถึงขีดสุดในราวต้นปี พ.ศ. 2530 ขนาดที่สั่งเข้ามามีความยาวระหว่าง 4-6 นิ้ว แต่ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ครั้งแรกในราวปี พ.ศ. 2524 ในประเทศไทยเคยมีผู้พยายามเพาะขยายพันธุ์ปลาชนิดนี้หลายครั้งหลายหน ทั้งใช้วิธีผสมพันธุ์แบบเลียนแบบธรรมชาติและวิธีผสมเทียม แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ

No comments: